11 มิถุนายน 2558

11 สูตรน้ำจิ้มยอดฮิต รสเด็ดแซ่บถึงใจ!!




11 สูตรน้ำจิ้มยอดฮิต รสเด็ดแซ่บถึงใจ!!


          น้ำจิ้ม ถือเป็นเครื่องจิ้ม เครื่องปรุงรสที่ทำให้อาหารมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้น แถมอาหารบางอย่างก็ไม่สามารถยกไปเสิร์ฟได้เลยถ้าไม่มีน้ำจิ้ม แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า น้ำจิ้มแต่ละถ้วยมีส่วนผสมอะไรบ้าง 

          ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ก็ยังไล่เรียงชื่อน้ำจิ้มแต่ละถ้วยไม่หมดสักที มีหลายชนิดซะเหลือเกิน เลือกกินเลือกจิ้มคู่กับอาหารได้มากมายทั้งคาว-หวาน โดยเฉพาะคนไทย น้ำจิ้มถือเป็นเครื่องเคียงที่ขาดไปไม่ได้เลย ไม่ว่าจะกินอาหารเมนูไหน ๆ ก็มักจะมีน้ำจิ้มแซมมาให้เห็นอยู่เสมอ แต่ทว่า น้ำจิ้มแต่ละสูตรก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกันไป ส่วนผสมก็แตกต่างกัน แล้วเราจะรู้ได้อดย่างไรว่า น้ำจิ้มยอดฮิตที่เราชอบกินกันนั้นมีวิธีทำอย่างไรบ้าง วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็ได้รวบรวมสูตรน้ำจิ้ม และวิธีทำน้ำจิ้มยอดฮิตมาฝากถึง 21 สูตรน้ำจิ้มด้วยกัน ชอบสูตรไหนก็เลือกจิ้มกันได้ตามใจชอบเลยจ้า



  
1. น้ำจิ้มสุกี้ 
          ถ้าวันไหนครอบครัวของคุณเกิดอยากจะจัดปาร์ตี้สุกี้ขึ้นมา แล้วกลัวว่า น้ำจิ้มที่ซื้อมาจะไม่พอ ก็มาทำกินเองซะเลยดีกว่า ได้ทีเดียวหม้อเบ้อเริ่ม เป็นน้ำจิ้มสุกี้สูตรมาจาก คุณ Mr Trin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

 สิ่งที่ต้องเตรียม
           
  1. ซอสพริก 1 ขวดใหญ่
  2. น้ำส้มสายชู 3 ทัพพี
  3. ซอสมะเขือเทศ 1 ทัพพี
  4. ซีอิ๊วขาว 3 ทัพพี
  5. ซอสหอยนางรม 1 ทัพพี
  6. กระเทียมดอง 2 ทัพพี
  7. น้ำตาลทราย 3 ทัพพี
  8. พริกชีฟ้าแดง 9 เม็ด 
  9. กระเทียม 6 กลีบ 
  10. เต้าหู้ยี้ 4 ชิ้น
  11. งาขาวคั่ว บดพอหยาบ 1 กำมือ
  12. น้ำมันงา 2 ทัพพี
  13. ผักชี และผักชีฝรั่งซอย

วิธีทำ
          
1. ใส่ซอสพริกลงในกระทะ ตามด้วยน้ำส้มสายชู ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำกระเทียมดอง และน้ำตาลทราย คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
          
2. โขลกพริกชี้ฟ้าแดงกับกระเทียมให้เข้ากันจนแหลก ใส่เต้าหู้ยี้พร้อมน้ำลงไป บดทุกอย่างจนเข้ากัน จากนั้นตักใส่ในกระทะที่มีซอสพริก 
          
3. คนส่วนผสมในกระทะเข้าด้วยกัน นำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนผสมจนเดือด ปิดไฟ 
          
4. ใส่งาขาวคั่วบดลงไป ตามด้วยน้ำมันงา ค่อย ๆ คนผสมเข้าด้วยกัน ใส่ผักชีและผักชีฝรั่งซอย คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้กินกับสุกี้


____________________________________________________________________



 2. น้ำจิ้มซีฟู้ด
           
          อีกหนึ่งสูตรน้ำจิ้มที่ใคร ๆ ก็อยากจะมีไว้ในครอบครอง เพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดสามารถนำไปจิ้มกินกับอาหารได้หลายอย่าง แต่ที่นิยมก็คงจะเป็นอาหารทะเล ย่างสด ๆ ร้อน ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดเด็ด ๆ แบบนี้ อร่อยเด็ด ! 

ส่วนผสม
           
  1. พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
  2. พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 20 เม็ด
  3. กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/2 ถ้วย
  4. รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 4 ช้อนชา
  6. น้ำตาลทราย 7 ช้อนชา
  7. น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
  8. น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
           
1. ใส่พริกขี้หนูทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ตามด้วยกระเทียม รากผักชี เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ปั่นให้เข้ากันพอหยาบ
           
2. ใส่น้ำต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________

3. น้ำจิ้มหมูกระทะ
      คงจะมีหลายบ้านหลายครอบครัวที่ชอบทำหมูกระทะกินกันเอง สนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้กันไป นอกจากจะหมักหมู และเครื่องต่าง ๆ ให้อร่อยแล้ว หัวใจหลักสำคัญของอาหารปิ้งย่างก็ต้องอยู่ที่น้ำจิ้มด้วย ไปซื้อแบบสำเร็จมากินก็ไม่ถูกปาก ลองมาทำกินเองดีกว่าตามสูตรที่เรานำมาฝากนี้เลย รับรองว่า อร่อยจ้า

ส่วนผสม
           
  1. ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย
  2. ซอสพริก 3/4 ถ้วย
  3. ซีอิ๊วขาว 1/4 ถ้วย
  4. เต้าหู้ยี้ บดพอหยาบ 1 ก้อน
  5. น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  7. ผงพะโล้ 1/2 ช้อนชา
  8. งาขาวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
           
1. ใส่ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซีอิ๊วขาว และเต้าหู้ยี้ ลงในหม้อคนผสมให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง คนผสมตลอดเวลาจนเดือด
           
2. ใส่น้ำมันงา พริกไทย ผงพะโล้ และงาขาวคั่วครึ่งหนึ่งลงไป คนผสมจนเดือดอีกครั้ง ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟ

__________________________________________________________________





 4. น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
           
          เมนูหมูสะเต๊ะถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีเสน่ห์อยู่ที่น้ำจิ้ม เนื้อสัตว์หมักเครื่องเทศย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มสะเต๊ะผัดหอม ๆ รสหวานกลมกล่อม  ๆ ยิ่งได้กินคู่กับน้ำจิ้มอาจาดยิ่งอร่อยครบรสขึ้นไปอีกว่าแล้วก็มาจดสูตรน้ำจิ้มสะเต๊ะไปลองทำกันเลยจ้า

ส่วนผสม
           
  1. กะทิ 2 ถ้วย
  2. ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 1/2 ถ้วย
  3. น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลทรายปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือสมุทร 2 ช้อนชา

วิธีทำ
           
1. ใส่กะทิ 1 ถ้วย ลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางเคี่ยวจนกะทิแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงและถั่วลิสงคั่วบดลงผัดให้เข้ากัน เติมกะทิที่เหลือ คนผสมให้เข้ากัน ลดไฟลง หมั่นคนตลอดเวลา
           
2. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และเกลือ เคี่ยวจนข้น และมีน้ำมันลอยหน้า ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________





  5. น้ำจิ้มอาจาด
       ในเมื่อมีน้ำจิ้มสะเต๊ะอร่อย ๆ แล้ว ก็ต้องมาคู่กับน้ำจิ้มอาจาด เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย น้ำจิ้มอาจาดไม่ใช่แค่กินกับเมนูสะเต๊ะได้อย่างเดียวเท่านั้น ยังสามารถนำไปกินกับพวกทอดมัน ขนมปังหน้าหมู หรืออาหารทอด ๆ อย่างอื่นได้อีกด้วย 

ส่วนผสม
           
  1. น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
  2. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
  3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  4. แตงกวาซอย
  5. หอมแดงซอย
  6. พริกชี้ฟ้าแดงเม็ดใหญ่ซอย

วิธีทำ
           
1. ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย เติมเกลือลงไปเล็กน้อย ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
           
2. เวลาเสิร์ฟ ตักอาจาดใส่ถ้วย ตามด้วยแตงกวาซอย หอมแดงซอย และพริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________




  6. น้ำจิ้มแจ่ว
     เชื่อเลยว่า น้ำจิ้มแจ่วสไตล์อีสานเป็นอีกหนึ่งน้ำจิ้มที่หลายคนชอบ แต่ไม่รู้ว่า ถ้าทำกินเอง จะอร่อยเหมือนที่แถมมาจากร้านหรือเปล่า รับรองว่าสูตรน้ำจิ้มแจ่วด้านล่างนี้ อร่อยเป๊ะ ! เป็นสูตรมาจาก คุณเนินน้ำ
ส่วนผสม
  1. น้ำมะขามเปียก 50 กรัม
  2. น้ำอุ่น 1 ถ้วย
  3. น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  8. หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
           
1. แช่มะขามเปียกในน้ำอุ่นพอนุ่ม คั้นแล้วกรองเอาแต่น้ำ เตรียมไว้
           
2. ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บและน้ำปลาเข้าด้วยกันในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนเหนียว เติมพริกป่น ข้าวคั่วป่น คนพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนอุ่น
           
3. ตักใส่ถ้วยโรยด้วยผักชีฝรั่งซอย และหอมแดงซอย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________




 7. น้ำจิ้มลูกชิ้น
           
          เวลาซื้อลูกชิ้นสุดโปรดแบบเป็นกิโล ๆ มากิน ถึงแม้ว่าเนื้อลูกชิ้นจะอร่อยนุ่มนิ่มขนาดไหน แต่ถ้านำมาจิ้มกินกับน้ำจิ้มไก่สำเร็จรูปธรรมดา ๆ ก็หมดราคากันพอดี แบบนี้ก็ต้องทำน้ำจิ้มลูกชิ้นไว้กินเองได้แล้ว 

ส่วนผสม
           
  1. พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม 20 เม็ด
  2. กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
  3. กระเทียมดอง 3 หัว
  4. น้ำ 1 ถ้วย
  5. น้ำมะขามเปียก 1 1/4 ถ้วย
  6. น้ำตาลทราย 1 3/4 ถ้วย
  7. เกลือสมุทร 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
           
1. ใส่พริกแห้ง กระเทียม กระเทียมดอง และน้ำลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
           
2. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย และเกลือลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่เครื่องที่ปั่นไว้ลงไป เคี่ยวจนข้นเหนียว ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________





8. น้ำจิ้มสะเดาน้ำปลาหวาน
           
          พอถึงหน้าสะเดาออกดอก วัยรุ่นเก๋า ๆ หน่อยก็จะปลื้มปริ่ม เพราะจะได้ซื้อสะเดามาจิ้มกินกับน้ำปลาหวาน แต่ถ้าเป็นวัยว้าวุ้นก็คงจะร้องยี้ให้กับความขมปี๋ของสะเดา แต่พอเอามาจิ้มกินกับน้ำปลาหวานก็ช่วยลดความขมลงไปได้เยอะ แถมเข้ากันดีอย่าบอกใครเชียว ถ้าที่บ้านไหนได้รับสะเดามาเป็นของฝากหน้าหนาว ก็ลองมาทำน้ำจิ้มสะเดาน้ำปลาหวานกินกันเองเลยดีกว่า

ส่วนผสม
           
  1. น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
  2. น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
  3. น้ำปลา 1/4 ถ้วย
  4. หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
  5. หอมแดงเจียว
  6. พริกขี้หนูแห้งทอด

วิธีทำ
           
1. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนข้นและเหนียว ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้พออุ่น 
           
2. ใส่หอมแดงซอย คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยหอมแดงเจียว และพริกขี้หนูแห้งทอด พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________





9. น้ำจิ้มข้าวมันไก่
           
          ข้าวมันไก่หลากหลายสูตร จะเจ้าดัง ๆ หรือไม่ดัง ก็ต้องยอมรับเลยว่า ทีเด็ดดความอร่อยนั้นอยู่ที่น้ำจิ้ม ถ้าน้ำจิ้มข้าวมันไก่อร่อยก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ถ้าคุณอยากจะลองทำข้าวมันไก่พร้อมน้ำจิ้มกินเอง จะไปกลัวอะไร เพราะเรามีสูตรน้ำจิ้มข้าวมันไก่อร่อย ๆ มาฝากแล้ว

ส่วนผสม
           
  1. เต้าเจี้ยว บดพอหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
  2. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
  3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือป่น สำหรับปรุงรส
  5. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ขิงอ่อนสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  7. พริกขี้หนูแดงสับละเอียด

วิธีทำ
          
1. ผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน คนผสมจนละลายเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________



10. น้ำจิ้มข้าวหมกไก่ (น้ำจิ้มสะระแหน่)
           
          หลายคนเรียกน้ำจิ้มชนิดว่า น้ำจิ้มข้าวหมกไก่กันจนติดปาก และอาจจะนึกไปว่าทำมาจากพริกขี้หนูเขียวผสมกับใบโหระพาหรือผักชี แต่จริง ๆ แล้วเป็นน้ำจิ้มที่ผสมใบสะระแหน่ เลยทำให้น้ำจิ้มข้าวหมกไก่มีกลิ่นหอมเย็น ๆ ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรมาจาก คุณบ่งบ๊ง ที่นำเสนอไว้ในวิธีทำข้าวหมกไก่ แถมน้ำจิ้มข้าวหมกไก่สูตรนี้ยังสามารถนำไปกินกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนได้อีกด้วยนะคะ 

ส่วนผสม
           
  1. น้ำส้มสายชู
  2. น้ำตาลทราย
  3. กระเทียมกลีบเล็ก 20 กลีบ
  4. พริกชี้ฟ้าเขียว หรือพริกขี้หนูเขียว
  5. ผักชีไทย
  6. ใบสะระแหน่
  7. เกลือป่น
  8. นมเปรี้ยว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำ
           
 1. ใส่น้ำส้มสายชู และน้ำตาลทรายลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย พักไว้จนเย็น
           
  2. ใส่กระเทียม พริก ผักชีไทย และใบสะระแหน่ลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมให้ละเอียด เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำส้มสายชู เติมเกลือป่น ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________


 11. น้ำจิ้มหอยทอด
           
          หอยทอดก็เป็นอาหารจานเดียวอีกหนึ่งเมนูที่คนนิยมทำกินกันเองที่บ้าน เพราะวิธีทำไม่ได้ยากจนเกินไป แน่นอนว่า หอยทอดจะอร่อยได้ครบรสนั้น ต้องมีน้ำจิ้มหอยทอดอร่อย ๆ เคียงคู่กันมาด้วย ไหน ๆ ก็ทำหอยทอดกินเองแล้ว ก็ทำน้ำจิ้มหอยทอดกินเองไปด้วยเลยน่าจะดีนะคะ








ส่วนผสม
           
  1. พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด 2 เม็ด
  2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  3. เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
  4. น้ำส้มสายชู 3/4 ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
  5. ซอสพริก 1/2 ถ้วย

 วิธีทำ
           
1. ใส่น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำส้มสายชูลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนส่วนผสมข้นและเหนียว ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
           
 2. ใส่พริกชี้ฟ้าโขลกละเอียด และซอสพริก ลงไปคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



____________________________________________________________________





ครั้งหน้าจะนำมาฝากอีก 10 สูตรจ้า

ขอบคุณ http://cooking.kapook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น